Natural White Expert Cream ( ครีมหน้าขาว สูตรพิเศษ )
ครีมหน้าขาวครีมหน้าขาว คำตอบเพื่อผิวขาว สำหรับทุกสภาพผิว ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวขาว ไร้ ฝ้า กระ รอยหมองคล้ำที่คุณพอใจ
ผสานสารสกัดจากพืชธรรมชาติ อาทิ แอปเปิ้ล รากชะเอม มะยมอินเดีย และ Alpha Arbutin ช่วยลดจำนวนเซลล์ที่มีการสร้างเม็ดสีสูงผิดปกติลงได้* (*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลง แล้วแต่บุคคล) ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยหมองคล้ำ ดูแลผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยสารสกัดวิชซ์ฮาเซล คาโมมายล์ และว่านหางจระข้ พร้อมปกป้องการสูญเสียคอลลาเจนให้กับเซลล์ผิว ด้วยสารสกัดแพลงก์ตอน และสาหร่ายทะเล ให้ผิวคงความชุ่มชื่น อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติสูงถึง 90% เพื่อผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่อครีม นุ่มละเอียดไม่เหนียวเหนอะหนะ
ส่วนประกอบสำคัญ :
Soduim Hyaluranate, Alpha Arbutin, Kojic Dipalmitate, Ascorbyl Glucoside, Hyaluronic Acid, Emblica Officinalis Fruit Extract , Glycyrrhiza Glabra Root Extract, Malus Domestica Fruit Extract, Chamomilla Recutita Exract, Algae Extract, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Glycine Soja (Soybean) Oil, Hamamelis Virginiana Bark/Leaf/Twig Extract, Soluble Collagen, Niacinamide.
วิธีใช้ : ล้างหน้าให้สะอาด ทาครีม บางๆ ทั่วใบหน้า และลำคอ เช้า และก่อนนอน
ขนาดปกติ 10 มิลลิลิตร
เลขที่ใบรับแจ้ง 10-1-5433591
Beauty Tip :
Natural White Expert Cream เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เนื้อครีม ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว เมื่อทาครีมแล้วควรทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที หรือใช้นิ้วกลางและนิ้วนางช่วยตบเนื้อครีมบนใบหน้าเบาๆ ให้ครีมซึมลงผิวดีเสียก่อน จึงค่อยทาครีมกันแดด หรือรองพื้นเป็นลำดับต่อไป
การใช้ครีมแต่ละครั้งนั้นควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะคือไม่เกินขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดโตๆ บางคนอาจเข้าใจว่าการใช้ครีมบำรุงยิ่งมากยิ่งดี เพราะจะทำให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้วครีมที่มากเกินไปไม่ได้ให้ผลดีกับผิวเราเลย เพราะครีมจะสามารถซึมซาบสู่ผิวในปริมาณที่จำกัด นอกเหนือจากนั้นก็จะตกค้างอยู่บนผิวของเรา และอาจหลุดออกไปขณะนอนหลับหรือเมื่อใช้มือสัมผัสผิวหน้า บริเวณเหนือริมฝีปาก คาง และหน้าผาก
ครีมหน้าขาว
ครีมหน้าขาวหรือไวเทนนิ่งถือเป็นอีกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันสูงมาก ในที่นี้เราจะพูดถึงครีมหน้าขาวที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้หรือ AHA กันเนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ไม่มีอันตรายต่อผิวพรรณ
รีมที่ว่านี้มีหลักการง่ายๆคือ จะเข้าไปทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกหลุดลอกออกไปและเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าขึ้นมา และหากใช้ในระยะเวลาที่เหมาะสมและความเข้มข้นของครีมไม่มากจนเกินไป รอยด่างดำบนใบหน้าก็สามารถหลุดลอกออกไปได้เช่นกันหรืออาจจางลงได้บ้าง
สำหรับความเข้มข้นของกรด AHA อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 4% ก็เพียงพอแล้ว หากค่า pH สูงกว่า 5 อาจทำให้ผิวหนังไม่หลุดลอกเพราะครีมมีสภาพเป็นด่าง นอกจากนี้ AHA ที่สูงตั้งแต่ 2% ขึ้นไปก็ยังไม่เหมาะที่จะใช้ทุกวันด้วย เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
การใช้ครีมหน้าขาวนั้น คุณควรใส่ใจเป็นพิเศษโดยเริ่มต้นทาวันละครั้งก่อน หากผิวลอกมากก็ให้เปลี่ยนไปทาวันเว้นวัน ควรใช้ครีมเพียงเล็กน้อยและควรทาในขณะที่หน้าแห้งเท่านั้นเพื่อผิวจะได้ไม่ระคายเคือง ทางที่ดีคุณควรทาครีมกันแดดร่วมด้วยเพื่อเสริมประสิทธิภาพของครีมหน้าขาว และเมื่อใช้ครีมไปสักระยะ หากไม่มีปัญหาแพ้อะไรก็ให้เพิ่มความถี่ในการทาครีมเป็นวันละ 2 ครั้งได้ตามสบาย หากผลที่ได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้วให้เปลี่ยนมาใช้ครีมเพียงวันละครั้ง และไม่ควรทาครีมบริเวณรอบๆดวงตาและริมฝีปาก เพราะส่วนนี้มีความบอบบางมาก
นอกจากนี้การเลือกซื้อครีมก็ควรดูสภาพผิวตัวเองด้วย หากคุณมีผิวมันควรใช้แบบชนิดที่เป็นเจลหรือโลชั่นแทนครีม แต่ถ้ามีผิวแห้งก็ให้ใช้แบบครีมได้ เมื่อซื้อมาแล้วควรทดสอบการใช้ที่บริเวณท้องแขนก่อนว่ามีอาการแพ้หรือไม่จึงจะนำมาใช้กับใบหน้าได้
เลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวเรา ครีมบำรุงผิวหน้า จะมีอยู่ 2 สูตร คือ
1. ออยล์ อิน วอเตอร์ (Oil-in-water) จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบรอง ลักษณะเนื้อครีมจะเป็นโลชั่นเหลว เนื้อครีมแทรกซึมลงสู่ผิวหนังได้เร็วไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ เช่น พวกเดย์ครีม หรือมอยส์เจอไรเซอร์ สำหรับทาในตอนเช้า
2. วอเตอร์ อิน ออยล์ (Water-in-oil) จะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำเป็นส่วนประกอบรอง จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวได้เต็มที่ ส่วนมากจะเป็นครีมประเภทที่ใช้ช่วงกลางคืน
การเลือกครีมชนิดไหน ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวคุณด้วย ถ้าผิวมีความชุ่มชื้นดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเติมครีมบำรุงผิว หรือทาเฉพาะกลางคืนก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า “ออยล์ฟรี” ซึ่งจะมีส่วนประกอบของน้ำมันน้อยมาก
- ส่วนคนผิวธรรมดาสามารถเลือกใช้ครีมได้หลายประเภท
- สำหรับคนผิวแห้ง ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบสูง เพื่อเพิ่มความชุมชื้นเป็นพิเศษ
- ส่วนสาวผิวผสม อาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า “ทีโซน” คือบริเวณหน้าผาก จมูก คาง ซึ่งช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะได้ สำหรับสาวที่มีปัญหาผิวบริเวณแก้มเป็นขุย อาจเลือกใช้ครีมที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบทาเฉพาะแก้มก็ได้นะคะ
Beauty Tip :
สำหรับสาววัย 30 ขึ้นไปแล้วนั้น หลังจากลงครีมบำรุงและกันแดดแล้ว ควรใช้ครีมปกปิดริ้วรอยในช่วงกลางวันเพิ่มเติมด้วย หากทาได้เนียนดีแม้ในหน้าร้อนก็ไม่ต้องทาซ้ำใหม่ ส่วนตอนกลางคืนควรใช้คลีนซิ่งชนิดครีมหรือน้ำมันสำหรับเช็ดบริเวณริมฝีปากและรอบดวงตา เช็ดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกเป็นอันดับแรก สครับผิวควรใช้ทุกๆ 10 วัน เมื่อใช้สครับขัดเอาเซลล์เก่าที่ตายแล้วหลุดออกใบหน้าจะดูขาวขึ้น ควรผสมโฟมล้างหน้าปนนิดหน่อย เพื่อช่วยลดความรู้สึกหยาบของสครับลงได้
หลักการทาครีมให้เหมาะสม
มาเราเรียนรู้ถึงหลักการทาครีมที่เหมาะสม หากทาครีมได้ถูกต้องก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อครีมให้ได้ผลมากขึ้น มีหลักการง่ายๆดังต่อไปนี้
• การบีบครีมออกมาใช้นั้น ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะคือประมาณ 2 ซม. บางคนคิดว่าการใช้ครีมบำรุงยิ่งมากยิ่งดีเพราะจะทำให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น ครีมที่มากเกินไปนั้นไม่ได้มีผลกับผิวของเราเลย ครีมจะสามารถซึมซาบสู่ผิวได้ในปริมาณที่จำกัด นอกเหนือจากนั้นก็จะคงตกค้างอยู่บนผิวของเรา และอาจหลุดออกไปขณะนอนหลับ หรือเมื่อใช้มือจับผิวหน้าได้ง่ายๆ
• เมื่อบีบครีมออกมาแล้วให้แต้มบริเวณจุดต่างๆดังต่อไปนี้คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง จากนั้นใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดครีมให้ซึมซาบสู่ผิวเบาๆ ที่ใช้นิ้วนางนั้นก็เพราะนิ้วนางเป็นนิ้วที่เราไม่ถนัดนัก แรงกดจึงมีไม่มาก เป็นการทะนุถนอมใบหน้าของเราจากแรงกดไปในตัว การนวดครีมให้ซึมซาบสู่ผิวนั้นให้นวดขึ้นไป และเกลี่ยครีมในบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน นวดจากบริเวณกลางโหนกแก้มไปที่ด้านข้างโดยรอบสันจมูก บริเวณเหนือริมฝีปาก คาง และหน้าผาก
• การทาครีมรอบดวงตานั้นต้องมีวิธีเฉพาะ ปริมาณไม่ต้องมากเหมือนใบหน้า บีบครีมออกมาแค่เม็ดถั่วเขียวแล้วใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมอย่างเบามือจากบริเวณหัวตาไปหางตาทั้งบนและล่าง เกลี่ยไปในทิศทางเดียวกันหลายๆครั้งจนรู้สึกว่าเนื้อครีมซึมซาบดีแล้ว
• เมื่อทาครีมที่หน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาถึงส่วนของลำคอ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลไม่แพ้ใบหน้าเช่นกัน เพราะหากหน้าสวยเต่งตึงแต่ลำคอกลับเหี่ยวย่นก็คงดูไม่งามนัก ให้บีบครีมออกมาประมาณ 2 ซม. เท่ากับที่ใช้บนใบหน้า แล้วใช้นิ้วทุกนิ้วยกเว้นนิ้วโป้ง ลูบครีมขึ้นไปเพื่อให้ลำคอเต่งตึง การลูบลงจะเป็นการทำให้คอเหี่ยวย่นได้
• เมื่อทาครีมที่คอเสร็จแล้วก็ควรทาเรื่อยมาที่แผ่นอกด้วย เพราะการใส่เสื้อผ้าสมัยนี้ส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้หญิงมักมีการเปิดเผยในส่วนนี้มากขึ้น ให้บีบครีมออกมาเล็กน้อย แล้วใช้มือลูบไล้เบาๆให้ทั่ว
• บริเวณเรียวแขนนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องทาครีมให้ถูกวิธี ให้คุณบีบครีมออกมาสัก 5 ซม. แล้วลูบไล้ที่ท้องแขนขึ้นไปข้างบน
• บริเวณเรียวขาก็ให้ใช้ครีมในปริมาณที่พอๆกับเรียวแขน ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ครีมเบาๆ จากปลายเท้าขึ้นมาถึงโคนขา ให้เน้นบริเวณที่มีความแห้งกร้านเป็นพิเศษอย่างหน้าแข้งด้วย บริเวณเท้านั้นก็สำคัญเช่นกัน เพราะเป็นบริเวณที่แห้งกร้านและถูกใช้งานอย่างหนัก ควรทาครีมบริเวณนิ้วเท้าด้วยและหากมีการนวดเบาๆเพื่อผ่อนคลายร่วมกับการทาครีมก็จะยิ่งเป็นการดูแลที่พิเศษขึ้น
• บริเวณหลังและหน้าท้องนั้นก็ควรจะมีการทาครีมด้วย เพื่อให้ผิวพรรณดูสวยและนุ่มเนียนเสมอกันทั้งตัว และส่วนใหญ่แล้วบริเวณนี้มักไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก การทาครีมก็ให้ใช้ครีมในปริมาณที่เหมาะสมนวดลูบไล้เบาๆก็เพียงพอแล้ว
ทาครีมบำรุงผิวหน้า นานแค่ไหน ถึงจะเห็นผล
การใช้ครีมบำรุงต่างๆ ในการฟื้นฟูผิวพรรณนั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุด 3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผล แต่ถ้าอดใจไม่ไหวก็ควรแก้ไขด้วยการแต่งหน้าปกปิดรอยต่างๆ หรือจุดด่างดำไปก่อน เช่นการใช้แป้งรองพื้น และเมื่อผลิตภัณฑ์ใช้เป็นประจำได้ผล ก็จะสามารถอวดผิวสวยได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางแถมดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
|
|
|
|