ครีมบำรุงผิวหน้า Olive Night Cream (ไนท์ครีมมะกอก)
ส่วนประกอบสำคัญ : Olive Oil, Jojoba Oil, Centella Asiatica Leaf Extract, Glycerin.
วิธีใช้ : ล้างหน้าให้สะอาด ทา ครีมบำรุงผิวหน้า บางๆ ทั่วใบหน้า และลำคอ ก่อนนอน
ขนาดปกติ 15 มิลลิลิตร
เลขที่ใบรับแจ้ง 10-1-5400607
Beauty Tip :
ครีมบำรุงผิวหน้า ไนท์ครีมมะกอก เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ใช้ทาเป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังทำความสะอาดผิว และทาเซรั่ม
การใช้ ครีมบำรุงผิวหน้า แต่ละครั้งนั้น ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะคือไม่เกินขนาดประมาณเม็ดข้าวโพดโตๆ บางคนอาจเข้าใจว่าการใช้ ครีมบำรุงผิวหน้า ยิ่งมากยิ่งดี เพราะจะทำให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น แต่จริงๆ แล้ว ครีมบำรุงผิวหน้า ที่มากเกินไปไม่ได้ให้ผลดีกับผิวเราเลย เพราะครีมจะสามารถซึมซาบสู่ผิวในปริมาณที่จำกัด นอกเหนือจากนั้นก็จะตกค้างอยู่บนผิวของเรา และอาจหลุดออกไปขณะนอนหลับหรือเมื่อใช้มือสัมผัสผิวหน้า บริเวณเหนือริมฝีปาก คาง และหน้าผาก
การทาครีมบำรุงให้ใช้ ครีมบำรุงผิวหน้า ขนาดเท่าเม็ดข้าวโพด ใส่ที่อุ้งมือ (ที่ล้างสะอาดแล้ว) กดอุ้งมือ 2 ข้างเข้าหากัน เพื่อทำให้ครีมอุ่น และเพิ่มปริมาณ จากนั้นใช้อุ้งมือทาครีมทั่วใบหน้าและลำคอ ทั้งเช้า+ก่อนนอน
*การทาครีมแบบนี้เป็นเทคนิคของช่างแต่งหน้าชาวฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เนื้อครีมซึมลงผิวได้ดี ประหยัดครีม และทำให้ผิวแต่ละส่วนได้รับ ครีมบำรุงผิวหน้า ในปริมาณที่เท่ากันค่ะ
เลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับผิวเรา ครีมบำรุงผิวหน้า จะมีอยู่ 2 สูตร คือ
1. ออยล์ อิน วอเตอร์ (Oil-in-water) จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบรอง ลักษณะเนื้อครีมจะเป็นโลชั่นเหลว เนื้อครีมแทรกซึมลงสู่ผิวหนังได้เร็วไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ เช่น พวกเดย์ครีม หรือมอยส์เจอไรเซอร์ สำหรับทาในตอนเช้า
2. วอเตอร์ อิน ออยล์ (Water-in-oil) จะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก มีน้ำเป็นส่วนประกอบรอง จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวได้เต็มที่ ส่วนมากจะเป็นครีมประเภทที่ใช้ช่วงกลางคืน
การเลือกครีมชนิดไหน ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวคุณด้วย ถ้าผิวมีความชุ่มชื้นดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเติมครีมบำรุงผิว หรือทาเฉพาะกลางคืนก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า “ออยล์ฟรี” ซึ่งจะมีส่วนประกอบของน้ำมันน้อยมาก
- ส่วนคนผิวธรรมดาสามารถเลือกใช้ครีมได้หลายประเภท
- สำหรับคนผิวแห้ง ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบสูง เพื่อเพิ่มความชุมชื้นเป็นพิเศษ
- ส่วนสาวผิวผสม อาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า “ทีโซน” คือบริเวณหน้าผาก จมูก คาง ซึ่งช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะได้ สำหรับสาวที่มีปัญหาผิวบริเวณแก้มเป็นขุย อาจเลือกใช้ครีมที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบทาเฉพาะแก้มก็ได้นะคะ
Beauty Tip :
สำหรับสาววัย 30 ขึ้นไปแล้วนั้น หลังจากลงครีมบำรุงและกันแดดแล้ว ควรใช้ครีมปกปิดริ้วรอยในช่วงกลางวันเพิ่มเติมด้วย หากทาได้เนียนดีแม้ในหน้าร้อนก็ไม่ต้องทาซ้ำใหม่ ส่วนตอนกลางคืนควรใช้คลีนซิ่งชนิดครีมหรือน้ำมันสำหรับเช็ดบริเวณริมฝีปากและรอบดวงตา เช็ดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกเป็นอันดับแรก สครับผิวควรใช้ทุกๆ 10 วัน เมื่อใช้สครับขัดเอาเซลล์เก่าที่ตายแล้วหลุดออกใบหน้าจะดูขาวขึ้น ควรผสมโฟมล้างหน้าปนนิดหน่อย เพื่อช่วยลดความรู้สึกหยาบของสครับลงได้
หลักการทาครีมให้เหมาะสม
มาเราเรียนรู้ถึงหลักการทาครีมที่เหมาะสม หากทาครีมได้ถูกต้องก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อครีมให้ได้ผลมากขึ้น มีหลักการง่ายๆดังต่อไปนี้
• การบีบครีมออกมาใช้นั้น ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะคือประมาณ 2 ซม. บางคนคิดว่าการใช้ครีมบำรุงยิ่งมากยิ่งดีเพราะจะทำให้ได้ผลเร็วยิ่งขึ้น ครีมที่มากเกินไปนั้นไม่ได้มีผลกับผิวของเราเลย ครีมจะสามารถซึมซาบสู่ผิวได้ในปริมาณที่จำกัด นอกเหนือจากนั้นก็จะคงตกค้างอยู่บนผิวของเรา และอาจหลุดออกไปขณะนอนหลับ หรือเมื่อใช้มือจับผิวหน้าได้ง่ายๆ
• เมื่อบีบครีมออกมาแล้วให้แต้มบริเวณจุดต่างๆดังต่อไปนี้คือ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้าง จมูก และคาง จากนั้นใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดครีมให้ซึมซาบสู่ผิวเบาๆ ที่ใช้นิ้วนางนั้นก็เพราะนิ้วนางเป็นนิ้วที่เราไม่ถนัดนัก แรงกดจึงมีไม่มาก เป็นการทะนุถนอมใบหน้าของเราจากแรงกดไปในตัว การนวดครีมให้ซึมซาบสู่ผิวนั้นให้นวดขึ้นไป และเกลี่ยครีมในบริเวณที่กว้างที่สุดก่อน นวดจากบริเวณกลางโหนกแก้มไปที่ด้านข้างโดยรอบสันจมูก บริเวณเหนือริมฝีปาก คาง และหน้าผาก
• การทาครีมรอบดวงตานั้นต้องมีวิธีเฉพาะ ปริมาณไม่ต้องมากเหมือนใบหน้า บีบครีมออกมาแค่เม็ดถั่วเขียวแล้วใช้นิ้วนางเกลี่ยครีมอย่างเบามือจากบริเวณหัวตาไปหางตาทั้งบนและล่าง เกลี่ยไปในทิศทางเดียวกันหลายๆครั้งจนรู้สึกว่าเนื้อครีมซึมซาบดีแล้ว
• เมื่อทาครีมที่หน้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาถึงส่วนของลำคอ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลไม่แพ้ใบหน้าเช่นกัน เพราะหากหน้าสวยเต่งตึงแต่ลำคอกลับเหี่ยวย่นก็คงดูไม่งามนัก ให้บีบครีมออกมาประมาณ 2 ซม. เท่ากับที่ใช้บนใบหน้า แล้วใช้นิ้วทุกนิ้วยกเว้นนิ้วโป้ง ลูบครีมขึ้นไปเพื่อให้ลำคอเต่งตึง การลูบลงจะเป็นการทำให้คอเหี่ยวย่นได้
• เมื่อทาครีมที่คอเสร็จแล้วก็ควรทาเรื่อยมาที่แผ่นอกด้วย เพราะการใส่เสื้อผ้าสมัยนี้ส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้หญิงมักมีการเปิดเผยในส่วนนี้มากขึ้น ให้บีบครีมออกมาเล็กน้อย แล้วใช้มือลูบไล้เบาๆให้ทั่ว
• บริเวณเรียวแขนนั้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องทาครีมให้ถูกวิธี ให้คุณบีบครีมออกมาสัก 5 ซม. แล้วลูบไล้ที่ท้องแขนขึ้นไปข้างบน
• บริเวณเรียวขาก็ให้ใช้ครีมในปริมาณที่พอๆกับเรียวแขน ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ครีมเบาๆ จากปลายเท้าขึ้นมาถึงโคนขา ให้เน้นบริเวณที่มีความแห้งกร้านเป็นพิเศษอย่างหน้าแข้งด้วย บริเวณเท้านั้นก็สำคัญเช่นกัน เพราะเป็นบริเวณที่แห้งกร้านและถูกใช้งานอย่างหนัก ควรทาครีมบริเวณนิ้วเท้าด้วยและหากมีการนวดเบาๆเพื่อผ่อนคลายร่วมกับการทาครีมก็จะยิ่งเป็นการดูแลที่พิเศษขึ้น
• บริเวณหลังและหน้าท้องนั้นก็ควรจะมีการทาครีมด้วย เพื่อให้ผิวพรรณดูสวยและนุ่มเนียนเสมอกันทั้งตัว และส่วนใหญ่แล้วบริเวณนี้มักไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก การทาครีมก็ให้ใช้ครีมในปริมาณที่เหมาะสมนวดลูบไล้เบาๆก็เพียงพอแล้ว
ทาครีมบำรุงผิวหน้า นานแค่ไหน ถึงจะเห็นผล
การใช้ครีมบำรุงต่างๆ ในการฟื้นฟูผิวพรรณนั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยที่สุด 3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผล แต่ถ้าอดใจไม่ไหวก็ควรแก้ไขด้วยการแต่งหน้าปกปิดรอยต่างๆ หรือจุดด่างดำไปก่อน เช่นการใช้แป้งรองพื้น และเมื่อผลิตภัณฑ์ใช้เป็นประจำได้ผล ก็จะสามารถอวดผิวสวยได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางแถมดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
|
|
|
|