ส่วนประกอบสำคัญ :
สารสกัดไข่มุก : ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกรดอะมิโนจำเป็นชนิดที่ผิวไม่สามารถสร้างเองได้ถึง 8 ชนิด และแร่ธาตุ ต่างๆ เช่น Calcium , Magnesium , Zinc , Strontium , Copper , Selenium , Siliconและ Titanium มีสรรพคุณในการลดกระน้ำตาลใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวขาวขึ้น (ยับยั้งการสร้างเมลานิน) ทำให้ผิวมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ เสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียน มีความยืดหยุ่นดี ช่วยควบคุมการหลั่งไขมันบนใบหน้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
ใบบัวบก : ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย เร่งการสร้างสารคอลลาเจน (Collagen) ที่เป็นโครงสร้างของผิวจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้แผลสมานตัวได้ เร็ว จึงมีการนำมาใบบัวบกมาใช้รักษาแผลสด แผลเรื้อรัง หรือแผลหลังผ่าตัด ใบบัวบกจะช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยให้แผลหายเร็ว นอกจากนี้ยังช่วยสมานแผลเป็นมีขนาดเล็ก และแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ในทางความงามบัวบกมีฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดรอยหมองคล้ำ รอยด่างดำของผิว ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและตึงกระชับ ลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น
ว่านหางจระเข้ : มีสรรพคุณในการรักษาผื่นคัน สิว ผิวหนังพอง ถูกแดดเผา ผิวด่างดำ ลดการอักเสบของผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น กระชับรูขุมขน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค และเชื้อรา และมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็รักษาความงามและความมีเสน่ห์ของพระองค์ด้วยวุ้นของว่านหางจระเข้
วิธีใช้ : ใช้ เจลล้างหน้า ทำความสะอาดผิวหน้าทั้งเช้า และก่อนนอน
ขนาดปกติ 60 มิลลิลิตร
เลขที่ใบรับแจ้ง 10-1-5323054
Beauty Tip : ควรล้างมือให้สะอาดก่อนล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของ เจลล้างหน้า
การล้างหน้าที่ถูกวิธีและสะอาดหมดจด
การล้างหน้านั้นความจริงแล้วก็มีเทคนิคอยู่เหมือนกัน การล้างหน้าที่ถูกวิธีจะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกให้หมดไปจากใบหน้าได้เกลี้ยงเกลา ไม่ทำให้หน้าบอบช้ำและเกิดปัญหาได้
หากผิวของคุณมีสุขภาพดีและไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางล้างหน้าชนิดใดๆ ก็สามารถใช้น้ำเปล่าธรรมดาล้างหน้าได้ เพียงแต่ว่าต้องล้างนานสักนิดและล้างอย่างเบามือ
หากต้องการใช้เครื่องสำอางล้างหน้า เช่น สบู่ โฟม และเจล ก็สามารถทำได้ ซึ่งมีวิธีการง่ายๆดังต่อไปนี้
1. ผสมน้ำเล็กน้อยกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้แล้วขยี้เบาๆจึงค่อยนำไปถูใบหน้าตามส่วนต่างๆ
2. ถูวนขึ้นไปที่บริเวณแก้มเบาๆ จากนั้นใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางถูขึ้นไปเบาๆที่บริเวณหน้าผาก
3. สำหรับบริเวณจมูกให้ถูย้อนแนวของกล้ามเนื้อขึ้นไป โดยการถูจากฐานจมูกไปยังสันจมูกด้วยปลายนิ้วนาง จากนั้นให้ถูบริเวณริมฝีปากด้วยนิ้วชี้กับนิ้วนาง
4. ส่วนที่เหลือคือบริเวณรอบดวงตา ซึ่งควรทำอย่างเบามือโดยดารใช้นิ้วชี้วางบนเปลือกตาและนิ้วนางวางที่ใต้ตา จากนั้นค่อยลูบไล้เบาๆจากหางตาไปยังหัวตา
นอกเหนือจากสบู่ โฟม และเจลแล้ว ยังมีเครื่องสำอางทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเครื่องสำอางทำความสะอาดที่ปราศจากไขมัน ซึ่งจะใช้การถูแล้วเช็ดออกโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก เหมาะกับผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย เครื่องสำอางชนิดนี้ดีตรงที่สะดวกและพกติดตัวไปได้ในที่ที่ไม่มีน้ำใช้ และเมื่อใช้แล้วก็ยังทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เพราะมีสารที่ทำหน้าที่เคลือบผิวคล้ายฟิล์มบางๆ ช่วยคงความชุ่มชื้นไว้
นอกจากนี้ยังมีครีมทำความสะอาดซึ่งมีส่วนผสมของไขมัน ครีมชนิดนี้ต้องใช้น้ำในการชำระล้าง และเมื่อชำระล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะคงความชุ่มชื้นเหมือนฟิล์มบางๆคอยเก็บกักความชุ่มชื้นให้คงอยู่ได้ยาวนาน
ผิวธรรมดา ล้างหน้าวันละกี่ครั้งดี
สำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดา คุณอาจไม่แน่ใจว่า คุณควรล้างหน้าวันละกี่ครั้ง จึงจะสะอาดเพียงพอ จริงๆแล้วแค่ 2 ครั้งก็พอ นั่นคือ ตอนเช้าและก่อนนอน หรือช่วงที่อาบน้ำตอนเย็นนั่นเอง การที่เราล้างหน้าบ่อยเกินไป จะทำให้ใบหน้าขาดความชุ่มชื่น และเกิดการระคายเคืองได้ง่าย รู้อย่างนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาล้างหน้าวันละหลายๆ ครั้ง แต่ 2 ครั้ง ที่ล้างหน้านั้นต้องล้างให้สะอาดมากที่สุดก็แล้วกัน
ผิวมัน ล้างหน้าวันละกี่ครั้งดี
สำหรับผู้ที่มีผิวมัน อาจจะต้องกังวลกับความมันบนใบหน้าอยู่ตลอดเวลา ถ้าล้างหน้าทั้งวันได้คงจะล้างหน้าทั้งวันอย่างแน่นอน แต่ความจริงไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น หากเราล้างหน้าบ่อยๆ เกินไปจะยิ่งเป็นการทำร้ายเซลล์ผิวหน้าให้ช้ำเอาง่ายๆ ความเหมาะสมของการล้างหน้าสำหรับผิวมันคือ วันละ 4 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และใช้สารทำความสะอาดอ่อนๆ ก็พอแล้ว เพียงเท่านี้ความกังวลก็จะหมดไปไม่ยากเลย
|
|
|
|